ข้อสอบใบขับขี่ พร้อมเฉลย เรื่อง การคาดการณ์อุบัติเหตุ | Thai Drive Exam

ข้อสอบใบขับขี่ พร้อมเฉลย เรื่อง การคาดการณ์อุบัติเหตุ

20/04/2025 | อ่าน 0

ข้อสอบใบขับขี่

    • จอดรถบริเวณที่ปลอดภัย เปิดไฟหน้ารถและเปิดไฟฉุกเฉิน
    • เปิดไฟหน้าเร่งความเร็วผ่านบริเวณที่ฝนตกหนัก
    • เร่งความเร็วให้ผ่านบริเวณที่ฝนตกโดยเร็ว
    • จอดรถทันที
    • รถโดยสารอาจเคลื่อนที่โดยฉับพลัน
    • ผู้เดินเท้าอาจเดินออกมาทางข้างหลังรถโดยสาร
    • รถโดยสารอาจเสียอยู่
    • ไม่ต้องระวัง เนื่องจากเป็นถนนฝั่งตรงข้าม
    • ขับรถให้เร็วขึ้น
    • ลดความเร็ว
    • จอดรถทันที
    • ขับตามปกติ
    • สภาพการจราจรคล่องตัว
    • เวลากลางคืนแสงไฟสว่างเพียงพอ
    • เวลากลางวันไม่มีฝนตก
    • ฝนตก มีหมอก ถนนลื่น
    • อย่างน้อย 4 เมตร เหลือพื้นที่ให้รถบรรทุก
    • อย่างน้อย 1 เมตร เพราะอาจมีรถคันอื่นเปิดประตู
    • อย่างน้อย 2 เมตร เหลือพื้นที่ให้รถยนต์แซง
    • อย่างน้อย 3 เมตร เหลือพื้นที่ให้รถจักรยานยนต์แซง
    • ระมัดระวังผู้โดยสารที่ลงจากรถโดยสารประจำทาง
    • บีบแตร
    • เร่งความเร็วแซงรถประจำทางไป
    • ตามหลังรถโดยสารประจำทางอย่างกระชั้นชิด
    • ขับในระยะปกติเพื่อไม่ให้เปลืองพื้นที่ในการใช้ถนน
    • เว้นระยะให้มากขึ้น เพื่อในกรณีที่รถจักรยานยนต์หักเลี้ยวเพื่อหลบหลุมที่พื้น
    • ขับตามระยะกระชั้นชิด เพื่อที่รถจักรยานยนต์จะได้มองเห็นผ่านกระจก
    • แซงในทันที
    • เมื่อทำการหยุดรถในสถานการณ์ฉุกเฉิน
    • เมื่อขับรถบนถนนที่มีผิวถนนดี
    • เมื่อขับรถลงทางลาดชัน
    • เมื่อทำการหยุดรถในสถานการณ์ปกติ
    • อาจมีคนขายพวงมาลัย
    • รถข้างหน้าอาจจะดับ
    • การจราจรติดขัด
    • อาจจะไปชนกับรถที่วิ่งฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดงมาอีกทาง
    • เมื่อแท็กซี่อาจหยุดกะทันหัน แก้ไขโดยเว้นระยะห่างให้เหมาะสม
    • เมื่อรถจอดกลางถนนอาจมีคนเปิดประตูแก้ไขโดยให้สัญญาณและลดความเร็ว
    • เมื่อเห็นทางโค้งอาจมีรถวิ่งกินเลนมา แก้ไขโดยลดความเร็ว
    • เมื่อเจอทางสามแยก แก้ไขโดยบีบแตรและเร่งความเร็วชิงเลี้ยวก่อน
    • เพื่อฝึกสมาธิในขณะขับรถ
    • เพื่อสังเกตอันตรายที่อาจเกิดขึ้นล่วงหน้าได้
    • ผ่อนคลายสายตาจากการขับรถ
    • เพื่อการแซง
  • ป้ายและเครื่องหมายจราจร
    • เปลี่ยนช่องจราจรไปทางซ้าย
    • ขับแทรกระหว่างรถกระบะและรถบรรทุก เนื่องจากมีช่องว่างที่เพียงพอ
    • ชะลอรถเพื่อให้ทางรถกระบะ
    • เปลี่ยนช่องจราจรไปทางขวา
    • ผู้ขับขี่สามารถกะระยะในการแซงได้
    • ผู้ขับขี่สามารถรักษาระยะห่างกับยานพาหนะคันอื่นๆ ได้ในทุกความเร็วที่ขับขี่
    • ผู้ขับขี่สามารถเร่งความเร็วได้ทุกเมื่อ
    • ผู้ขับขี่สามารถเลี่ยงเขม่าดำจากควันรถคันข้างหน้าได้
  • ป้ายและเครื่องหมายจราจร
    • รถจักรยานยนต์รับผู้โดยสาร
    • รถบัสแทรกเลนซ้าย
    • สัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นเหลือง
    • รถคันข้างหน้าเร่งความเร็ว
  • ป้ายและเครื่องหมายจราจร
    • รถบรรทุกอาจจะเบรกกะทันหัน
    • คนขับรถบรรทุกอาจจะเร่งความเร็วของรถ
    • ประตูหลังรถบรรทุกอาจปิดไม่สนิท ทำให้สิ่งของตกลงมา
    • รถบรรทุกบดบังทัศนวิสัยในการขับของผู้ขับรถยนต์ A
    • รถที่วิ่งสวนทาง
    • รถทางข้างหลัง
    • รถที่วิ่งตรงมาทางขวา
    • รถทางด้านซ้าย
  • ป้ายและเครื่องหมายจราจร
    • ตั้งที่ด้านหลังทั้งสองข้างของกระจกหลังรถ
    • ตั้งอยู่ด้านข้าง มักจะอยู่ระหว่างประตูหน้าและหลัง
    • ตั้งที่ด้านหน้าของรถทั้งสองข้างของกระจกหน้ารถ
    • ตั้งที่ด้านบนของตัวรถ ทำหน้าที่รับสัญญาณวิทยุ
    • ช่วยลดปัญหารถติด โดยการสนับสนุนการใช้รถสาธารณะ
    • ช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุรุนแรง
    • ผิดทุกข้อ
    • ช่วยให้ผู้ขับขี่เข้าใจในการเคลมประกันรถ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ
  • ป้ายและเครื่องหมายจราจร
    • ป้ายเตือน
    • ข้างหน้าทางโค้งและมีระดับ
    • รถยนต์จากเลนตรงข้าม
    • ต้นไม้หล่น
    • เทคนิคสำหรับตรวจเช็กระยะห่างที่เหมาะสมระหว่างรถคันหน้า
    • เทคนิคสำหรับตรวจเช็กความเร็วของถนนในแต่ละเลน
    • เทคนิคสำหรับตรวจเช็กระยะห่างที่เหมาะสมระหว่างรถคันข้าง
    • เทคนิคสำหรับตรวจเช็กระยะห่างที่เหมาะสมของรถกับแยกข้างหน้า
    • มีเวลาในการมองเห็น สังเกต ตัดสินใจ และตอบสนอง
    • ช่วยให้รถในเลนอื่นสามารถแซงเข้ามาได้
    • ช่วยประหยัดน้ำมัน
    • เผื่อระยะสำหรับการแซง
    • เหมาะสมกับถนนเส้นนั้น
    • ช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้
    • เท่าไรก็ได้ หากไม่มีป้ายแนะนำความเร็ว
    • เท่าไรก็ได้ หากไม่มีกล้องตรวจจับความเร็ว
    • เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถสังเกตเห็นอันตรายที่อาจเกิดขึ้นทางด้านหน้า และด้านหลังรถได้
    • เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถสังเกตเห็นอันตรายที่อาจเกิดขึ้นทางด้านหน้า และด้านบนรถได้
    • เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถสังเกตเห็นอันตรายที่อาจเกิดขึ้นทางด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังรถได้
    • เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถสังเกตเห็นอันตรายที่อาจเกิดขึ้นทางด้านหลังรถได้
    • นายเอ รักษาระยะห่างจากรถคันหน้าได้น้อยเกินไป
    • นายเอ กำลังเตรียมตัวที่จะแซงขวา
    • นายเอ รักษาระยะห่างจากรถคันหน้าได้มากเกินไป
    • นายเอ รักษาระยะห่างจากรถคันหน้าได้เหมาะสม
  • ป้ายและเครื่องหมายจราจร
    • บีบแตรเพื่อเตือนคนเดิน
    • เปลี่ยนช่องจราจรไปทางขวา
    • ชะลอความเร็วเมื่ออยู่ในเขตชุมชน
    • เปิดกระจกเพื่อซื้อของ
    • ลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงบนท้องถนน
    • ผู้ขับขี่สามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์อันตรายที่จะเกิดขึ้นได้อย่างถูกวิธี
    • ลดอัตราการใช้เชื้อเพลิง
    • ผู้ขับขี่สามารถคาดการณ์อุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นได้
  • ป้ายและเครื่องหมายจราจร
    • รถยนต์ข้างหน้า
    • รถกระบะจากทางด้านซ้าย
    • รถจากทางร่วมด้านขวา
    • คอนกรีตกั้นช่องจราจร
    • ด้านขวา
    • ด้านซ้าย
    • ด้านบน
    • ด้านหน้า
    • 270 องศา
    • 300 องศา
    • 90 องศา
    • 360 องศา
    • มอง สังเกต วิเคราะห์, รักษาระยะห่างที่ปลอดภัย, การเคลมประกันภัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
    • รักษาระยะห่างที่ปลอดภัย, มอง สังเกต วิเคราะห์, การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ
    • รักษาระยะห่างที่ปลอดภัย, การเร่งเครื่องยนต์ที่ถูกวิธี, การแจ้งเจ้าหน้าที่หลังจากการเกิดอุบัติเหตุ
    • รักษาระยะห่างที่ปลอดภัย, มอง สังเกต วิเคราะห์, ตอบสนองและปฏิบัติเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ
    • ถูกทุกข้อ
    • มุมอับจากข้างหลังรถที่จอดอยู่
    • สัญญาณกันขโมยดังขึ้น
    • ประตูรถของคันที่จอดอยู่เปิดออกกะทันหัน
    • เว้นระยะห่างอย่างน้อย 6 วินาทีระหว่างรถของเรากับรถที่วิ่งตรงมาทางขวา
    • ต้องเร่งความเร็วเพื่อให้เข้ากับความเร็วของจราจรบนถนนที่รถกำลังเลี้ยว
    • หักพวงมาลัยน้อยกว่าการเลี้ยวขวา
    • หักพวงมาลัยมากกว่าการเลี้ยวขวา
    • รถกู้ภัย ขับแทรกมาด้วยความเร็ว
    • ถูกทุกข้อ
    • รถคันอื่นหักหลบกะทันหันเพื่อเลี่ยงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
    • คน หรือ รถ วิ่งตัดหน้าเพื่อมาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
  • ป้ายและเครื่องหมายจราจร
    • ตำแหน่ง A และ C
    • ตำแหน่ง C
    • ตำแหน่ง A
    • ตำแหน่ง B
  • ป้ายและเครื่องหมายจราจร
    • คัน A
    • คัน A และ B
    • คัน B
    • ไม่ต้องระวังเนื่องจากอยู่ในระยะที่ปลอดภัยในขณะเลี้ยว
    • ตรวจสอบจุดบอด
    • ตรวจสอบกระจกข้างซ้าย
    • ตรวจสอบกระจกข้างขวา
    • ตรวจสอบยางรถ
  • ป้ายและเครื่องหมายจราจร
    • จุดบอดเสา B
    • จุดบอดเสา C
    • จุดบอดเสา A
    • จุดบอดเสา D
    • มุมอับที่ทำให้ไม่เห็นคนที่วิ่งออกมา
    • รถจักรยานยนต์ขับแทรก
    • ถูกทุกข้อ
    • ไฟอาจจะลัดวงจร
    • การเลี้ยวเข้าซอย
    • การถอยรถ
    • การเลี้ยวซ้าย
    • การแซงซ้าย
  • ป้ายและเครื่องหมายจราจร
    • มองไม่เห็น เนื่องจากรถยนต์คัน A อยู่ในมุมบอดของรถบรรทุก
    • มองเห็นได้ชัดเจน จากกระจกมองหลัง
    • มองเห็นได้ชัดเจน จากกระจกมองข้างขวา
    • มองเห็นได้ชัดเจน จากกระจกมองข้างซ้าย
    • รถสองแถว
    • รถบัส
    • รถจักรยานยนต์
    • รถยนต์
    • ทัศนวิสัยชัดเจนมากขึ้น
    • ทัศนวิสัยในการมองแย่ลง
    • ทัศนวิสัยในการมองด้านข้างดีมากขึ้น
    • ไม่ส่งผลต่อทัศนวิสัยในการมอง
    • ควรปรับกระจกให้มองเห็นด้านข้างของรถเพียง 1/4 ของพื้นที่กระจก
    • ควรปรับกระจกให้มองเห็นด้านข้างของรถเพียง 1/6 ของพื้นที่กระจก
    • ควรปรับกระจกให้มองเห็นด้านข้างของรถเพียง 1/3 ของพื้นที่กระจก
    • ควรปรับกระจกให้มองเห็นด้านข้างของรถเพียง 1/2 ของพื้นที่กระจก
    • เปลี่ยนช่องจราจร
    • การเลี้ยวซ้าย
    • การแซงซ้าย
    • การเลี้ยวเข้าซอย
    • เสาสัญญาณไฟจราจรที่บดบังการมองหน้า
    • เสาแนวตั้งรอบๆ รถซึ่งอยู่ระหว่างกระจกซึ่งส่งผลต่อจุดอับจุดบอดในขณะขับขี่
    • เสาไฟฟ้าที่อยู่บนช่วงถนน
    • เสาสัญญาณวิทยุที่อาจจะบดบังทัศนวิสัยในการขับขี่
    • รถโดยสารเบรก และปาดเข้าเลนซ้าย
    • มุมอับจากรถโดยสารขนาดใหญ่ ทำให้ไม่เห็นคนที่ลงจากรถ หรือคนที่กำลังรอข้ามถนนหน้ารถโดยสารที่จอดอยู่
    • รถโดยสารเปลี่ยนเลน ขับเข้าช่องจราจรของผู้ขับขี่กะทันหัน
    • ถูกทุกข้อ
  • ป้ายและเครื่องหมายจราจร
    • รถแท็กซี่อาจเปลี่ยนช่องจราจรมาทางซ้าย
    • รถบรรทุกอาจเปลี่ยนช่องจราจรไปทางขวา
    • รถบรรทุกอาจเลี้ยวซ้าย
    • ประตูหลังรถบรรทุกอาจปิดไม่สนิท
    • ถุงลมนิรภัยทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
    • รู้ถึงประสิทธิภาพการเบรกของรถ
    • การเคลมประกันง่ายยิ่งขึ้น
    • บาดเจ็บสาหัส หรือ ตาย
    • ผู้ขับขี่สามารถเลี่ยงเขม่าดำจากควันรถคันข้างหน้าได้
    • ผู้ขับขี่สามารถเร่งความเร็วได้ทุกเมื่อ
    • ผู้ขับขี่สามารถกะระยะในการแซงได้
    • ผู้ขับขี่สามารถรักษาระยะห่างกับยานพาหนะคันอื่นๆ ได้ในทุกความเร็วที่ขับขี่
    • 2 วินาที
    • 3 วินาที
    • น้อยกว่า 3 วินาที
    • มากกว่า 3 วินาที
    • รถจักรยานยนต์อาจทำการแซงทางด้านขวา
    • รถจักรยานยนต์อาจออกมาจากเส้นทางรอง
    • รถจักรยานยนต์อาจตามหลังในระยะกระชั้นชิด
    • รถจักรยานยนต์อาจทำการแซงในทางด้านซ้าย
    • คนเดินเท้า
    • รถโดยสารประจำทาง
    • รถจักรยานยนต์
    • รถแท็กซี่
    • ให้สัญญาณไฟเพื่อเตือน
    • ตรวจสอบกระจกข้าง กระจกหลังและจุดบอดให้ดีก่อนเปลี่ยนช่องจราจร
    • ชะลอความเร็ว
    • เร่งความเร็วรถ
    • รถที่กำลังจะเบรกข้างหน้า
    • คนที่กำลังเดินอยู่บนทางเท้า
    • จุดอับ จุดบอด
    • รถที่วิ่งข้างหน้า
    • ไฟเบรกของรถคันข้างหน้า
    • สีรถของคันข้างๆ
    • สัญญาณไฟจราจร
    • ทะเบียนรถของคันข้างหน้า
    • ใช้ความเร็วต่ำ
    • เปิดไฟสูง
    • ลดหน้าต่างลง
    • บีบแตรเพื่อเตือน
    • ชะลอเข้าเลนขวา
    • กลับรถแล้วรีบตั้งลำ และปรับความเร็วให้เหมาะสม
    • เปิดไฟเลี้ยวเพื่อส่งสัญญาณให้รถคันหลัง รู้ว่ากำลังว่าจะเข้าเลนขวาเพื่อกลับรถ
    • หยุดรถ มองไกลและสังเกตกระแสจราจร ที่กำลังวิ่งสวนมา
    • เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินและขับผ่านไปให้เร็วที่สุด
    • ชะลอความเร็วลง และตรวจเช็กให้ปลอดภัยจึงขับผ่าน
    • หยุดรถหลังเส้นหยุดรถ เมื่อเห็นว่าปลอดภัยจึงขับผ่านไปด้วยความระมัดระวัง
    • ขับรถต่อไปตามปกติ เพื่อมิให้เกิดความล่าช้าแก่รถคันที่ตามมา
    • ตรวจสอบกระจกข้าง กระจกหลัง และ จุดบอดให้ดีก่อนเปลี่ยนช่องจราจร
    • ชะลอความเร็ว
    • เร่งความเร็วรถ
    • ให้สัญญาณไฟเพื่อเตือน
    • เปิดไฟสูงตลอดเวลาขณะขับขี่
    • เปิดไฟฉุกเฉินตลอดเวลาขณะขับขี่
    • ขับให้เร็วได้ตามปกติ
    • ขับให้ช้ากว่าปกติหรือไม่เร็วกว่าสายตาที่มองเห็น
    • ชะลอความเร็วลง และขับผ่านไปด้วยความระมัดระวัง
    • เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินและขับผ่านไปให้เร็วที่สุด
    • หยุดรถหลังเส้นหยุดรถ เมื่อเห็นว่าปลอดภัยจึงขับผ่านไปด้วยความระมัดระวัง
    • ขับรถต่อไปตามปกติ เพื่อมิให้เกิดความล่าช้าแก่รถคันที่ตามมา
    • เว้นระยะเวลา 1 วินาทีหลังจากสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้วเคลื่อนตัวรถ
    • เว้นระยะเวลา 3 วินาทีหลังจากสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้วเคลื่อนตัวรถ
    • เปิดไฟฉุกเฉิน
    • เร่งรถยนต์ไปไวที่สุด
    • กลับรถแล้วรีบตั้งลำ และปรับความเร็วให้เหมาะสม
    • หยุดรถ มองไกลและสังเกตกระแสจราจร ที่กำลังวิ่งสวนมา
    • เปิดไฟเลี้ยวเพื่อส่งสัญญาณให้รถคันหลัง รู้ว่ากำลังว่าจะเข้าเลนขวาเพื่อกลับรถ
    • เร่งความเร็วเพื่อแซงเข้าเลนขวา
    • คนข้ามถนน
    • สัตว์วิ่งตัดหน้ารถ
    • คนเดินบนทางเท้า
    • รถจักรยานยนต์
    • ตีวงเลี้ยวแคบกว่าการเลี้ยวซ้าย
    • หักพวงมาลัยมากกว่าการเลี้ยวซ้าย
    • ตีวงเลี้ยวกว้างกว่าการเลี้ยวซ้าย
    • เว้นระยะห่างอย่างน้อย 3 วินาทีระหว่างรถของเรากับรถที่วิ่งตรงมาทางขวาและซ้าย
    • เผื่อระยะสำหรับการแซง
    • ช่วยให้รถในเลนอื่นสามารถแซงเข้ามาได้
    • ช่วยประหยัดน้ำมัน
    • มีเวลาในการมองเห็น สังเกต ตัดสินใจและตอบสนอง
    • ขนาดของรถที่จะแซง
    • ทัศนวิสัยการมองด้านหน้า
    • บริเวณที่จะแซง
    • ระยะหยุดรถ
    • สายตาห้ามเคลื่อนไหวและจดจ่ออยู่ที่จุดใดจุดหนึ่ง
    • ใช้สายตาให้เคลื่อนไหวสามารถใช้มือถือได้บางช่วงเมื่อรถติด
    • สายตาห้ามเคลื่อนไหวและตั้งใจมองป้ายจราจร
    • ใช้สายตาให้เคลื่อนไหวและไม่จดจ่ออยู่ที่จุดใดจุดหนึ่ง
    • ช่วยให้ผู้ขับขี่มีพื้นที่ในการแซง
    • ช่วยให้ผู้ขับขี่มีพื้นที่ในการหลบหลีก อันตรายโดยไม่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
    • ช่วยให้ผู้ขับขี่มีพื้นที่ในการเลี้ยว
    • ผิดทุกข้อ
    • ตรวจสอบกระจกข้างและหลัง ทุกๆ 8-12 วินาที
    • ตรวจสอบน้ำมันเครื่องก่อนเดินทาง
    • การมองไกลข้างหน้า
    • ตรวจสอบจุดอับ จุดบอดของรถก่อนที่จะเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลน
    • ลดเสียงลำโพงในรถ แล้วสังเกตโดยรอบ ว่ารถฉุกเฉินมาจากทิศทางไหน
    • หักรถเข้าไหล่ทาง
    • ลดกระจกรถลงแล้วหักขวาทันที
    • เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน
    • เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินและขับผ่านไปให้เร็วที่สุด
    • เพิ่มความเร็วเพื่อให้ผ่านไปได้เร็ว
    • บีบแตรเตือนเพื่อความปลอดภัย
    • ชะลอความเร็วรถและตรวจเช็กให้ปลอดภัยจึงขับผ่าน
    • สามารถตรวจเช็กรถที่มาจากทางด้านซ้าย
    • สามารถตรวจเช็กจุดบอดจากทางด้านขวาของรถ
    • สามารถเปลี่ยนช่องจราจรได้ทันที่ ไม่ต้องให้สัญญาณไฟเลี้ยว
    • สามารถเปลี่ยนช่องจราจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    • น้อยกว่า 1 เมตร
    • มากกว่า 0.5 เมตร
    • น้อยกว่า 0.5 เมตร
    • มากกว่า 1 เมตร